คำแนะนำหลังรีแพร์ด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด เกึ่ยวกับการปฏิบัติตัว. การสัมผัสน้ำ, การพักฟื้นหลังผ่าตัด เป็นสิ่งที่คุณควรปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยในการหายของแผลผ่าตัด ลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด
ผู้ป่วยจะได้รับการสังเกตอาการที่ห้องพักฟื้น 1-2 ชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยรู้สึกตัวดี, สัญญาณชีพปกติ และตรวจแผลผ่าตัดแล้ว ไม่พบว่ามีเลือดออกจากแผลผ่าตัดมากผิดปกติ วิสัญญีแพทย์จึงจะอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับไปนอนพักสังเกตอาการต่อที่ตึกผู้ป่วยใน ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการมึนงง, เวียนศีรษะหรือคลื่นไส้อาเจียน จากการดมยาสลบ ภาวะดังกล่าวนี้จะดีขึ้น เมื่อระดับยาในร่างกายลดลง
1) คำแนะนำหลังตกแต่งด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด เกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ หลังผ่าตัด
- หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจำเป็นต้องใส่ผ้ากอซ (vagina packing ) ในช่องคลอด 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด เพื่อช่วยห้ามเลือด และจำเป็นใส่สายสวนปัสสาวะ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะทางเดินปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากภาวะปัสสาวะลำบากหลังผ่าตัด รวมทั้งต้องนอนพักโรงพยาบาลเป็นเวลา 3-5 วัน
- ที่ตึกผู้ป่วยใน ผู้ป่วยจะได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการผ่าตัด, ยาแก้อักเสบ เพื่อบรรเทาอาการอักเสบและช่วยลดความเจ็บปวดของแผลผ่าตัด, ยาแก้ปวดพาราเซตามอล และยาระบาย เพื่อป้องกันภาวะท้องผูก
- กรณีผู้ป่วยมีอาการปวดแผลมากไม่ดีขึ้นหลังการรับประทานยาแก้ปวด กรุณาแจ้งพยาบาล เพื่อขอรับยาแก้ปวดชนิดฉีด เพื่อช่วยลดอาการปวด
- คำแนะนำหลังรีแพร์ด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด ในระยะ 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะสามารถลุกและเดินไปรอบ ๆ เตียงได้เล็กน้อย ทั้งนี้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดและบริเวณก้นกบ
- ผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกปวดเบ่งอยากถ่ายอุจจาระตลอดเวลา ควรนอนพักเพื่อลดอาการปวด และควรหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายอุจจาระจากภาวะท้องผูก โดยการรับประทานยาระบาย
เกี่ยวกับการสัมผัสน้ำและการปฏิบัติตัว หลังการผ่าตัด
- ในระยะ 3-5 วันแรกหลังการผ่าตัด ไม่ควรอาบน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด (อาจใช้การเช็ดตัวไปก่อน) การทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด ที่อยู่บริเวณปากช่องคลอด หลังการถ่ายอุจจาระ สามารถทำได้โดยล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบาๆ ให้แห้ง
- หลังการผ่าตัด 3-5 วัน ผู้ป่วยจะได้รับการถอดสายสวนปัสสาวะ จากนั้นแพทย์หญิง วิทัศศนา จะทําการตรวจแผลผ่าตัด เพื่อดูว่าไม่มีเลือดออกจากแผลผ่าตัดมากผิดปกติ ทั้งนี้แพทย์หญิง วิทัศศนาจะอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ หลังจากผู้ป่วยสามารถปัสสาวะได้เอง รวมทั้งผู้ป่วยเข้าใจเกี่ยวกับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดที่ถูกต้อง
- คำแนะนำหลังตกแต่งด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด เมื่อกลับบ้าน ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ควรรับประทานให้ครบทั้งหมด
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดหลังการผ่าตัด แต่ควรยกเว้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ของหมักดองและงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 15 วันหลังการผ่าตัด
- หลังการผ่าตัด 3-5 วัน ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ผู้ป่วยควรทำความสะอาดแผลผ่าตัด บริเวณปากช่องคลอดด้วยการฟอกสบู่ขณะอาบน้ำ ในตอนเช้าและ/หรือก่อนนอนทุกครั้ง
- ไม่ควรพยายามทำความสะอาดในช่องคลอด โดยการล้วงเข้าไปในช่องคลอด แลไม่ควระพยายามสวนล้างหรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าไปในช่องคลอด
- ผู้ป่วยควรจะต้องหยุดทำงานและงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำเป็นประจำ ในระยะ 5-7 วันแรกหลังการผ่าตัด เพื่อลดอาการปวด อีกทั้งบริเวณที่ทำการผ่าตัด อยู่ในบริเวณที่จะได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหว ซึ่งได้แก่ การเดิน, การขึ้นลงบันได หรือการทำกิจกรรมทางกายภาพต่าง ๆ
- ดังนั้นการหยุดทำงาน และงดกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะช่วยให้แผลผ่าตัดไม่ถูกขยับไปมาเกือบตลอดเวลาหลังการผ่าตัด ซึ่งก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากภาวะแผลแยกได้
2) คำแนะนำหลังรีแพร์ด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด เกี่ยวกับอาการที่อาจพบได้หลังผ่าตัด
- ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกอาจมีเลือดสีแดงจางๆ ออกจากช่องคลอด ผู้ป่วยควรใส่ผ้าอนามัย เพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอด กรณีมีเลือดออกมากชุ่มผ้าอนามัย หรือมีเลือดออกเป็นก้อนสีแดงสด กรุณาโทรติดต่อโรงพยาบาลทันที เพื่อขอรับคำแนะนำ หรือกลับมาพบแพทย์ เพื่อตรวจแผลผ่าตัด
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการ ผ่าตัดตกแต่งด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด ควรพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นบริเวณแผลผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น
- การทำความสะอาดแผลผ่าตัด บริเวณปากช่องคลอดหลังปัสสาวะ สามารถทำได้โดยการซับด้วยทิชชูเปียก (Sanitary Wipes) และหลังการถ่ายอุจจาระ โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับให้แห้ง
- หลังการผ่าตัดอาจมีตกขาวสีเหลืองเข้ม หรือตกขาวมีสีคล้ายหนองนาน 6-8 สัปดาห์ ผู้ป่วยโปรดอย่ากังวลใจ เนื่องจากภายในช่องคลอดจะเต็มไปด้วยสารคัดหลั่งและแบคทีเรียต่าง ๆ ทําให้เกิดปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อที่ผ่าตัดและไหมที่เย็บแผลผ่าตัดในช่องคลอด
- ซึ่งเมื่อไหมละลายหมดและแผลผ่าตัดหายดีแล้ว อาการดังกล่าวจะหายเป็นปกติ ยกเว้นในกรณีตกขาวมีกลิ่นเหม็น ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับยารับประทานเพิ่มเติม
- ผู้ป่วยอาจมีตกขาวสีขาวปนเขียว หรือมีอาการคันในช่องคลอดมากกว่าปกติหลังการผ่าตัด เนื่องจากเชื้อราภายในช่องคลอด ซึ่งเกิดตามหลังการรับประทานยาปฏิชีวนะ
- ทั้งนี้โดยทั่วไปแพทย์จะจัดยาฆ่าเชื้อราให้รับประทาน หลังหยุดยาปฏิชีวนะ 1 สัปดาห์ หรือให้ยาเหน็บช่องคลอดฆ่าเชื้อรา เมื่อแผลผ่าตัดหายดีแล้ว หรือหลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์
ต้องการอ่านเพิ่มเติม โปรดคลิก
ขนาดใครคิดว่าไม่สำคัญ (Size Matters)
ปัญหาทั่วไปของอวัยวะเพศภายนอกของผู้หญิง
คำถามบ่อยเกี่ยวกับ การผ่าตัด รีแพร์ ด้านหน้าและด้านหลังผนังช่องคลอด
คำแนะนำหลังรีแพร์ด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในระยะเวลาพักฟื้น
- วิธีการพักฟื้นหลังการผ่าตัด อาจจะแตกต่างกันออกไป ในผู้ป่วยแต่ละคน แต่ผู้ป่วยควรจะต้องหยุดทำงาน และงดกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำเป็นประจำ ในช่วง 5-7 วันแรกหลังการผ่าตัด ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
- ในระยะ 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้ป่วยอาจจะค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังได้เล็กน้อยและยกของเบาๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพที่ต้องเดินมากๆ และการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
- ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 2 – จนถึงสัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัดตกแต่งด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด บริเวณที่ทำการผ่าตัดอาจจะยังคงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน อย่างไรก็ตามผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้พอควร แต่ควรงดการออกกําลังกายทุกชนิด
- ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 4 – จนถึงสัปดาห์ที่ 6 หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้มากขึ้น และสามารถออกกำลังกายที่ใช้แรงของลำตัวช่วงบนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพ ที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่ส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด เช่น การวิ่งออกกำลังกายหรือการเดินเร็ว, การแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ, การว่ายน้ำ, การออกกําลังกายยกนํ้าหนัก, การขี่จักรยาน, การเล่นโยคะและการซิทอัพ
- หลังการผ่าตัดตกแต่งด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด 6-8 สัปดาห์ ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆได้ตามปกติ รวมทั้งสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
คำแนะนำเกี่ยวกับ การตัดไหม หลังการผ่าตัด
- ไหมที่ใช้เย็บแผลผ่าตัด เป็นไหมเส้นใหญ่ที่ละลายช้าภายใน 6-8 สัปดาห์ แต่พบว่าในผู้ป่วยบางราย อาจใช้เวลานานมากกว่าปกติไหมจึงจะละลายหมด ทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากไหมที่ใช้เย็บแผลในการผ่าตัด ในผู้ป่วยที่มีอาการคันหรืออาการระคายเคืองมาก แนะนำให้รับประทานยาแก้แพ้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัน
สรุป
พญ.วิทัศศนา จะนัดตรวจ ในราว 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัดหรือเมื่อเห็นว่าเหมาะสม คำแนะนำหลังรีแพร์ด้านหน้าและด้านหลังช่องคลอด เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การผ่าตัดมีผลลัพธ์ที่ดี โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งขึ้นอยู่กับ แพทย์ และ ตัวผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งมีความสำคัญเท่า ๆ กัน ดังนั้นโปรดทราบว่า ต่อให้แพทย์ทําการผ่าตัด–เย็บแผลผ่าตัดอย่างระมัดระวังเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าแผลผ่าตัดเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคําแนะนําหลังการผ่าตัดโดยเคร่งครัด อย่าลังเลที่จะ ติดต่อสอบถาม เราหากมีข้อสงสัย