ปัจจัยสําคัญ ของการผ่าตัด ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 2 ปัจจัย
1 . ปัจจัยสําคัญอย่างแรก คือ แพทย์
สำหรับแพทย์ผู้ผ่าตัดทาง ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวช หรือ ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้น ไม่ใช่แค่มีความรู้เรื่องขั้นตอนในการทำการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์ถึงภาวะแทรกซ้อน ตลอดจนการให้การรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม เมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนกับผู้เข้ารับการผ่าตัด
1.1) แพทย์ผู้ผ่าตัด ควรมีความรู้เกี่ยวกับ เทคนิคพิเศษในการผ่าตัด ที่เหมาะสมในผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน
แพทย์ผู้ผ่าตัด ควรมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคพิเศษในการผ่าตัด ที่เหมาะสมในผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน อาทิ ในผู้เข้ารับการผ่าตัดชาวต่างชาติ ที่ต้องเดินทางกลับต่างประเทศภายใน 5 วันหลังการผ่าตัด อาจจําเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษ ในการเย็บแผลผ่าตัด เพื่อป้องกันการแยกของแผลผ่าตัด
1.2) แพทย์ผู้ผ่าตัด ควรมีความรู้เกี่ยวกับ การเลือกใช้ไหมที่ใช้เย็บแผล
แพทย์ผู้ผ่าตัด ควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ไหมที่ใช้เย็บแผลผ่าตัด ที่จะต้องละลายในเวลาที่เหมาะสม–ที่สําคัญคือไหม ต้องละลาย–หลังจากแผลผ่าตัดติดดีแล้ว
1.3) แพทย์ผู้ผ่าตัด ควรมีความรู้เกี่ยวกับ การเลือกใช้ยาปฏิชีวนะ
แพทย์ผู้ผ่าตัด ควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด–ในผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด ที่อาจจะแตกต่างกัน ระหว่างคนไทยหรือคนต่างชาติ เนื่องจากความไวในการติดเชื้อแต่ละชนิดแตกต่างกัน
1.4) แพทย์ผู้ผ่าตัด ควรมีความรู้เกี่ยวกับ การให้คําแนะนําที่ถูกต้องและเหมาะสม ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด
แพทย์ผู้ผ่าตัด ต้องให้คําแนะนําที่ถูกต้องและเหมาะสม ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด แก่ผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด เพราะผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน มีลักษณะการดําเนินชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจทําให้ไม่สามารถปฏิบัติตามคําแนะนํา ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดที่ถูกต้องได้ทั้งหมด ดังนั้นก่อนการผ่าตัด ควรมีการวางแผนร่วมกัน ระหว่างผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดและแพทย์
1.5) แพทย์ผู้ผ่าตัด ต้องเปิดกว้างยอมรับข้อผิดพลาด
แพทย์ผู้ผ่าตัด ต้องเปิดกว้างยอมรับข้อผิดพลาด, มีความซื่อสัตย์ และมีความรับผิดชอบ พร้อมที่จะช่วยเหลือและแก้ไขข้อผิดพลาด เมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นกับผู้เข้ารับการผ่าตัด
2 . ปัจจัยสําคัญ ของการผ่าตัด ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้น อย่างที่สอง คือ ตัวผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด
2.1) ผลลัพธ์ที่ดีของ การผ่าตัด ขึ้นอยู่กับ ลักษณะพื้นฐานเดิมของ โครงสร้างของอวัยวะเพศ ของผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด
ยกตัวอย่างเช่น กรณีแคมเล็กมีขนาดใหญ่มากหรือแคมเล็กมีความหนามาก, แคมเล็กมีชั้นซ้อนหลายชั้น, แคมเล็กทั้งสองข้างไม่เท่ากัน หรือแคมเล็กทั้งสองข้างมีลักษณะแตกต่างกันมาก ผลลัพธ์ของการผ่าตัดย่อมมีความแตกต่างกัน
2.2) ผลลัพธ์ที่ดีของ การผ่าตัด ขึ้นอยู่กับ อายุ ของผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด
2.2.1) อายุน้อยเกินไป อาจส่งผลถึงการปฏิบัติตัว หรือการดูแลหลังการผ่าตัดที่ถูกต้องไม่ได้ เนื่องจากขาดความรู้และความเข้าใจ มีความอดทนต่อความเจ็บปวดน้อย รวมทั้งขาดความระมัดระวังในการดูแลแผลหลังการผ่าตัด
2.2.2) อายุมากเกินไป อาจส่งผลถึงกระบวนการหายของแผลผ่าตัด เนื่องจากการมีโรคประจําตัวบางอย่าง ที่มีผลต่อกระบวนการหายของแผลผ่าตัด ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยที่แพทย์ไม่สามารถควบคุมได้
2.3) ผลลัพธ์ที่ดีของ การผ่าตัด ขึ้นอยู่กับ การปฏิบัติตัว หรือ การดูแลหลังการผ่าตัด ที่ถูกต้องของผู้เข้ารับการผ่าตัด
เนื่องจากเป็นการผ่าตัดบริเวณปากช่องคลอดและในช่องคลอด ซึ่งแผลผ่าตัดจะโดนน้ำ หรือสารคัดหลั่งจากภายในช่องคลอดตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้แผลผ่าตัด มีโอกาสเกิดการติดเชื้อของแผลผ่าตัดมากกว่า แผลผ่าตัดในบริเวณอื่นๆ ซึ่งการติดเชื้อของแผลผ่าตัด จะทําให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ทำให้แผลผ่าตัดติดผิดรูป, เกิดรอยแผลเป็น หรือเกิดแผลแยกแล้ว ทําให้มีเลือดออกมากผิดปกติ ดังนั้นการป้องกันการติดเชื้อแล้วเกิดแผลแยก โดยการฉีดยาปฏิชีวนะก่อนการผ่าตัด และการผ่าตัดด้วยเครื่องมือและเทคนิคปลอดเชื้อถือเป็นสิ่งสําคัญ
รวมทั้งเมื่อกลับบ้าน ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการผ่าตัดให้ครบทั้งหมด เนื่องจากแผลผ่าตัดตกแต่งทางนรีเวช ถือเป็นแผลผ่าตัดที่มีการปนเปื้อน (contaminated surgical wound) เพราะอยู่บริเวณใกล้ทางเดินปัสสาวะและทางเดินอุจจาระ
ในระยะแรกหลังการผ่าตัด ในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางรายอาจมีความจำเป็นที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้ เพื่อป้องกันอาการปัสสาวะลำบากหลังผ่าตัด ซึ่งโดยทั่วไปหลังจากนั้น 1-2 วัน ผู้เข้ารับการผ่าตัดก็จะปัสสาวะได้เองตามปกติ
วิธีการพักฟื้นจะแตกต่างออกไปในผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน แต่ภายในวันที่ 1-2 หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะสามารถลุกและเดินไปรอบๆ ได้เล็กน้อย และผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องหยุดทำงาน รวมทั้งงดกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำเป็นประจำในระยะ 2-3 วันแรก หรือ 3-5 แรก หรือ 5-7 วันแรกหลังการผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัด
ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นบริเวณแผลผ่าตัด การทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด หลังการถ่ายปัสสาวะ ทำได้โดยการซับด้วยทิชชูเปียก และหลังการถ่ายอุจจาระ ควรทำความสะอาด โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบาๆ ให้แห้ง และในผู้เข้ารับการผ่าตัดตกแต่งแคม หลังอาบน้ำทุกครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน ควรใช้ไดร์เป่าผมอุ่นๆ เป่าบริเวณแผลผ่าตัดนานครั้งละ 10-15 นาที หรือจนกว่าบริเวณแผลผ่าตัดจะแห้งสนิท
ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจจะค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังได้เล็กน้อยและยกของเบาๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพที่ต้องเดินมากๆ และการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 2 จนถึงสัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดอาจจะยังคงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน แต่อย่างไรก็ตามผู้เข้ารับการผ่าตัด สามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้พอควร และควรงดการออกกําลังกายทุกชนิด
ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 4 จนถึงสัปดาห์ที่ 6 หลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ทางกายภาพที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้มากขึ้น และสามารถออกกำลังกายที่ใช้แรงของลำตัวช่วงบนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพ ที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่ส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด
หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ได้ตามปกติ รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์
ปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ดี ของการผ่าตัดทาง ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวช หรือ ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้น ขึ้นอยู่กับ แพทย์ และ ตัวผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งมีความสำคัญเท่าๆ กัน ดังนั้นปรดทราบว่า ต่อให้แพทย์ทําการผ่าตัด–เย็บแผลผ่าตัดอย่างระมัดระวังเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าแผลผ่าตัดเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคําแนะนําหลังการผ่าตัดโดยเคร่งครัด