คำแนะนำหลังผ่าตัดรีแพร์ หรือ การผ่าตัด ตกแต่งช่องคลอด มีข้อควรปฏิบัติที่จะช่วยให้ผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัด เข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนหลังผ่าตัด,การปฏิบัติตัว, การดูแลแผลผ่าตัด, การพักฟื้น, การตัดไหม และการนัดหมายหลังการผ่าตัด ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีของการผ่าตัด
1) คำแนะนำหลังผ่าตัดรีแพร์ เกี่ยวกับ อาการและขั้นตอนหลังการผ่าตัด
ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจมีอาการอาการมึนงง, เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน จากการฉีดยานอนหลับ ควรนอนพักเพื่อสังเกตอาการ จนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น
- โดยทั่วไม่จำเป็นต้องนอนพักโรงพยาบาล แต่ในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางราย ที่กังวลกับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด หรือพักอยู่ต่างจังหวัด แพทย์อาจจะแนะนําให้นอนพักโรงพยาบาล 1 คืน ซึ่งในกรณีนี้หลังการผ่าตัดมีความจำเป็นที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะไว้ เพื่อป้องกันภาวะปัสสาวะคั่งค้าง เนื่องจากอาการปัสสาวะลำบากหลังการผ่าตัด
- ซึ่งหลังเสร็จจากการผ่าตัด เมื่อผู้เข้ารับการผ่าตัดรู้สึกตัวดี และสัญญาณชีพปกติ แพทย์จึงจะอนุญาตให้ผู้เข้ารับการผ่าตัด กลับไปนอนพักสังเกตอาการต่อที่ตึกผู้ป่วยใน
- ที่ตึกผู้ป่วยใน ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการผ่าตัด, ยาแก้อักเสบ เพื่อบรรเทาอาการอักเสบและช่วยลดความเจ็บปวดของแผลผ่าตัด และยาแก้ปวดพาราเซตามอล กรณีมีอาการปวดแผลผ่าตัดมาก อาการปวดไม่ดีขึ้นหลังการรับประทานยาแก้ปวด คุณจะได้รับยาแก้ปวดชนิดฉีด เพื่อบรรเทาอาการปวดของแผลผ่าตัด
- ในวันรุ่งขึ้น คุณจะได้รับการถอดสายสวนปัสสาวะ ทั้งนี้คุณจะสามารถลุกและเดินไปรอบ ๆ ได้เล็กน้อย หลังจากนั้นถ้าสามารถปัสสาวะได้เอง และหลังการตรวจบริเวณแผลผ่าตัดแล้ว ไม่พบว่ามีเลือดออกจากแผลผ่าตัดมากผิดปกติ รวมทั้งผู้เข้ารับการผ่าตัดเข้าใจ คำแนะนำหลังผ่าตัดรีแพร์ ที่ถูกต้อง แพทย์หญิง วิทัศศนา จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
คำแนะนำหลังการผ่าตัด เกี่ยวกับการปฏิบัติตัว เมื่อกลับบ้าน
- ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ควรรับประทานให้ครบทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด ในระยะ 1-2 แรกหลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่ควรอาบน้ำ–อาจใช้การเช็ดตัวไปก่อน
- สามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดหลังการผ่าตัด แต่ควรยกเว้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ของหมักดอง และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 15 วันหลังการผ่าตัด
- หลังการผ่าตัด 1-2 วัน ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรทำความสะอาดแผลผ่าตัด ที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดด้วยการฟอกสบู่ขณะอาบน้ำ ในตอนเช้าและ/หรือก่อนนอนทุกครั้ง
- ไม่ควรพยายามทำความสะอาดในช่องคลอด โดยการล้วงเข้าไปในช่องคลอด และไม่ควรพยายามสวนล้างหรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าไปในช่องคลอด
- ในระยะ 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะมีอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดและบริเวณก้นกบ รวมทั้งมีความรู้สึกปวดเบ่งอยากถ่ายอุจจาระตลอดเวลา
- ควรนอนพัก และควรหยุดทำงาน รวมทั้งควรงดกิจกรรมทางกายภาพต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ การเดินหรือการขึ้นลงบันได เพื่อลดอาการปวด อันเนื่องมาจากภาวะอักเสบของแผลผ่าตัด
- ซึ่งก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากภาวะแผลแยกได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระจากภาวะท้องผูก โดยการรับประทานยาระบาย
หลังการผ่าตัดรีแพร์ คุณอาจจะมีอาการ
- คำแนะนำหลังผ่าตัดรีแพร์ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด อาจมีเลือดสีแดงจางๆ ออกจากช่องคลอด ควรใส่ผ้าอนามัย เพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอด กรณีมีเลือดออกมากชุ่มผ้าอนามัย หรือมีเลือดออกเป็นก้อนสีแดงสด กรุณาโทรติดต่อโรงพยาบาลทันที เพื่อขอรับคำแนะนำ หรือกลับมาพบแพทย์ เพื่อตรวจแผลผ่าตัด
- คำแนะนำหลังผ่าตัดรีแพร์ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นบริเวณแผลผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลผ่าตัดแห้งและหายเร็วขึ้น
- สำหรับการทำความสะอาดแผลผ่าตัด บริเวณปากช่องคลอดหลังปัสสาวะ สามารถทำได้โดยการซับด้วยทิชชูเปียก (Sanitary Wipes) และหลังการถ่ายอุจจาระ โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบา ๆให้แห้ง
- หลังการผ่าตัดอาจมีตกขาวสีเหลืองเข้ม หรือตกขาวมีสีคล้ายหนองนาน 6-8 สัปดาห์ เนื่องจากภายในช่องคลอดจะเต็มไปด้วยสารคัดหลั่งและแบคทีเรียต่างๆ ทําให้เกิดปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อที่ผ่าตัดและไหมที่เย็บแผลผ่าตัดในช่องคลอด ยกเว้นในกรณีตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจจำเป็นต้องได้รับยารับประทานเพิ่มเติม
- อาจมีตกขาวสีขาวปนเขียว และมีอาการคันในช่องคลอดมากกว่าปกติหลังการผ่าตัด เนื่องจากเชื้อราภายในช่องคลอด ซึ่งเกิดตามหลังการรับประทานยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้โดยทั่วไปแพทย์จะจัดยาฆ่าเชื้อราให้รับประทาน หลังหยุดยาปฏิชีวนะ 1 สัปดาห์ หรือให้ยาเหน็บช่องคลอดฆ่าเชื้อรา เมื่อแผลผ่าตัดหายดีแล้ว หรือหลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์
ต้องการ ดู
2) คำแนะนำหลังผ่าตัดรีแพร์ เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในระยะเวลาพักฟื้น
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัด ยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นอาจจะค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังได้เล็กน้อยและยกของเบาๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพที่ต้องเดินมากๆ และการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
- หลังสัปดาห์ที่ 2 – จนถึงสัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดอาจจะยังคงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน อย่างไรก็ตามสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้พอควร แต่ควรงดการออกกําลังกายทุกชนิด
- ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 4 – จนถึงสัปดาห์ที่ 6 หลังการผ่าตัด สามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้มากขึ้น และสามารถออกกำลังกายที่ใช้แรงของลำตัวช่วงบนได้
- แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพ ที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่ส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด เช่น การวิ่งออกกำลังกายหรือการเดินเร็ว, การแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ, การว่ายน้ำ, การออกกําลังกายโดยการยกนํ้าหนัก, การขี่จักรยาน, การเล่นโยคะและการซิทอัพ
- หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ รวมทั้งสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
การตัดไหม หลังการผ่าตัดตกแต่งช่องคลอด
- ไหมที่ใช้ในการเย็บแผลผ่าตัด เป็นไหมเส้นใหญ่ที่ละลายช้าภายใน 6-8 สัปดาห์ แต่ในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางราย อาจใช้เวลานานมากกว่าปกติไหมจึงจะละลายหมด ทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคือง ในกรณีดังกล่าวควรรับประทานยาแก้แพ้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัน
สรุป
พญ.วิทัศศนา จะนัดเพื่อตรวจ หลังการผ่าตัด ในราว 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด หรือเมื่อเห็นว่าเหมาะสม สำหรับ คำแนะนำหลังผ่าตัดรีแพร์ เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะว่าต่อให้แพทย์ทําการผ่าตัดอย่างระมัดระวังเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าแผลผ่าตัดเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามคําแนะนําหลังการผ่าตัดโดยเคร่งครัด ในกรณีที่ผู้เข้ารับการผ่าตัด เกิดภาวะแทรกซ้อน กรุณาโทรติดต่อโรงพยาบาลทันที อย่าลังเลที่จะ ติดต่อสอบถาม เราหากมีข้อสงสัย