Home หลังการผ่าตัดยกมดลูก

หลังการผ่าตัดยกมดลูก

หลังการผ่าตัดยกมดลูก

5) การปฏิบัติตัว เมื่อกลับบ้าน หลังการผ่าตัดยกมดลูก

  • หลังการผ่าตัดยกมดลูกมื่อกลับบ้าน หลังการผ่าตัดยกมดลูก ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับยาปฏิชีวนะ, ยาระบาย, ยาแก้อักเสบและยาพาราเซตามอล ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะควรรับประทานให้ครบทั้งหมด
  • หลังการผ่าตัด 2-3 วัน สามารถอาบนํ้าได้ตามปกติ แต่ควรพยายามต้องระมัดระวังไม่ให้มีการรั่วซึมของนํ้าเข้า Tegaderm ® ที่ปิดแผลผ่าตัด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด กรณีมีการรั่วซึมของนํ้าเข้า Tegaderm ® ที่ปิดแผลผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องกลับมาพบแพทย เพื่อตรวจแผลผ่าตัด
  • ควรจะต้องหยุดทำงานและงดกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำเป็นประจำ ในระยะ 3-5 วันแรกหลังการผ่าตัด ซึ่งได้แก่ การเดิน, การขึ้นลงบันได หรือการทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ซึ่งก็จะช่วยให้แผลผ่าตัดไม่ถูกขยับไปมาเกือบตลอดเวลาหลังการผ่าตัด ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน จากภาวะแผลแยกได้ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระจากภาวะท้องผูก โดยการรับประทานยาระบาย
  • อาจมีเลือดสีแดงจางๆ ออกจากแผลผ่าตัด ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรสังเกตปริมาณเลือดที่ออกจากแผลผ่าตัด กรณีผู้เข้ารับการผ่าตัดมีเลือดออกมากชุ่มผ้ากอซ หรือมีเลือดออกเป็นก้อนสีแดงสด กรุณาโทรติดต่อโรงพยาบาลทันที หรือกลับมาพบแพทย์ เพื่อตรวจแผลผ่าตัด
  • ควรมาพบแพทย์ตามนัด ทั้งนี้โดยทั่วไป แพทย์หญิง วิทัศศนา จะนัดตรวจแผลผ่าตัด ครั้งที่ 1 หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ เพื่อดูแผลผ่าตัดและและให้คำแนะนำ รวมทั้งให้การตรวจรักษา ในกรณีที่มีความผิดปกติ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ในกรณีที่แผลผ่าตัดยังไม่ติดดี ผู้เข้ารับการผ่าตัดจำเป็นต้องปิด Tegaderm ® เพื่อกันนํ้าต่ออีก 1 สัปดาห์ 
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นบริเวณแผลผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลผ่าตัดแห้งและหายเร็วขึ้น สำหรับการทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอดหลังปัสสาวะ สามารถทำได้โดยการซับด้วยทิชชูเปียก (Sanitary Wipes) และทำความสะอาดหลังการถ่ายอุจจาระ โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบาๆให้แห้ง 
  • อาจมีตกขาวสีขาวปนเขียว หรือตกขาวคันในช่องคลอดมากกว่าปกติหลังการผ่าตัด เนื่องจากเชื้อราภายในช่องคลอด ซึ่งเกิดตามหลังการรับประทานยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้โดยทั่วไปแพทย์จะจัดยาฆ่าเชื้อราให้รับประทาน หลังหยุดยาปฏิชีวนะ 1 สัปดาห์ หรือให้ยาเหน็บช่องคลอดฆ่าเชื้อรา 
  • สามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดหลังการผ่าตัด แต่ควรยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ของหมักดอง และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 15 วันหลังการผ่าตัด

6) การพักฟื้นตัว หลังการผ่าตัดยกมดลูก

  • วิธีการพักฟื้นหลังการผ่าตัด อาจจะแตกต่างกันออกไป ในผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้เข้ารับการผ่าตัดควรจะค่อยๆ เริ่มกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ทางกายภาพที่ต้องใช้กำลังได้เล็กน้อยและยกของเบาๆ ได้  แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพที่ต้องเดินมากๆ และการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
  • ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 2 จนถึงสัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดอาจจะยังคงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้พอควร แต่ควรงดการออกกําลังกายทุกชนิด
  • หลังสัปดาห์ที่ 4 จนถึงสัปดาห์ที่ 6 หลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ทางกายภาพที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้มากขึ้น และสามารถออกกำลังกายที่ใช้แรงของลำตัวช่วงบนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพ ที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณที่ผ่าตัด เช่น การวิ่งออกกำลังกายหรือการเดินเร็ว, การแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ, การว่ายน้ำ, การออกกําลังกายโดยการยกนํ้าหนัก, การขี่จักรยา การเล่นโยคะและการซิทอัพ รวมทั้งควรงดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ 

7) วันนัดหลังการผ่าตัดยกมดลูก ครั้งที่ 2

  • โดยทั่วไปจะมีการนัดตรวจแผลผ่าตัดครั้งที่ 2 หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ เพื่อติดตามผลลัพธ์ของการผ่าตัด และให้คําแนะนําในการเริ่มมีเพศสัมพันธ์หลังการผ่าตัด
  • ไหมที่ใช้เย็บแผลผ่าตัดยกมดลูก เป็นไหมที่ละลายช้าภายใน 6-8 สัปดาห์ แต่พบว่าในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางราย อาจใช้เวลานานมากกว่า 6-8 สัปดาห์ ไหมจึงจะละลายหมด ทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากไหมที่ใช้เย็บในการผ่าตัด ในผู้เข้ารับการผ่าตัดที่มีอาการคัน หรืออาการระคายเคืองมาก แนะนำให้รับประทานยาแก้แพ้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการคันและอาการระคายเคือง

การ ผ่าตัดยกมดลูก เป็นหนึ่งในกลุ่มของ ศัลยกรรมทางนรีเวช ที่มีความซับซ้อนมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยต้องอาศัยความรู้, ความเข้าใจของโครงสร้างทางกายวิภาคของอวัยวะต่างๆ ในอุ้งเชิงกราน และทักษะการผ่าตัดที่ความแม่นยำเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ศัลยแพทย์ส่วนใหญ่ขาดประสบการณ์  หรือมีประสบการณ์ทางด้านศัลยกรรมประเภทนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของแพทย์ที่จะทำการผ่าตัด

ข้ามไปยังทูลบาร์