คำแนะนำหลังการผ่าตัด ยกมดลูก

คำแนะนำหลังการผ่าตัด ยกมดลูก

 1) คำแนะนำเกี่ยวกับ ขั้นตอนต่างๆ หลังการผ่าตัด ยกมดลูก

คำแนะนำหลังการผ่าตัดยกมดลูกหลังการผ่าตัด ยกมดลูก ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับการสังเกตอาการที่ห้องพักฟื้น 1-2 ชั่วโมง เมื่อผู้เข้ารับการผ่าตัดรู้สึกตัวดี, สัญญาณชีพปกติ และตรวจแผลผ่าตัดแล้ว ไม่พบว่ามีเลือดออกจากแผลผ่าตัดมากผิดปกติ วิสัญญีแพทย์จึงจะอนุญาตให้ผู้เข้ารับการผ่าตัด กลับไปนอนพักสังเกตอาการต่อที่ตึกผู้ป่วยใน ทั้งนี้ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจมีอาการมึนงง, เวียนศีรษะหรือคลื่นไส้อาเจียน จากการดมยาสลบ ภาวะดังกล่าวนี้จะดีขึ้น เมื่อระดับยาในร่างกายลดลง

bullet_tickที่ตึกผู้ป่วยใน ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังการผ่าตัด, ยาแก้อักเสบ เพื่อบรรเทาอาการอักเสบและช่วยลดความเจ็บปวดของแผลผ่าตัด, ยาแก้ปวดพาราเซตามอล และยาระบาย เพื่อป้องกันภาวะท้องผูก กรณีผู้เข้ารับการผ่าตัดมีอาการปวดแผลผ่าตัดมาก อาการปวดไม่ดีขึ้นหลังการรับประทานยาแก้ปวด กรุณาแจ้งพยาบาล เพื่อขอรับยาแก้ปวดชนิดฉีด เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด

bullet_tickหลังการผ่าตัดแผลผ่าตัดจะถูกปิดด้วยผ้ากอซ เพื่อช่วยห้ามเลือดหลังผ่าตัด และผู้เข้ารับการผ่าตัดมีความจำเป็นที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้อย่างน้อย 1-2 วันหลังการผ่าตัด 

2) คำแนะนำเกี่ยวกับ การสัมผัสน้ำและการปฏิบัติตัว หลังการผ่าตัด ยกมดลูก

ในระยะ 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่ควรอาบน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด ทั้งนี้การทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอดหลังการถ่ายอุจจาระ สามารถทำได้โดยล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบาๆให้แห้ง

หลังการผ่าตัด 2-3 วัน แพทย์หญิง วิทัศศนา จะทําการตรวจบริเวณแผลผ่าตัด เพื่อดูว่าไม่มีเลือดออกจากแผลผ่าตัดมากผิดปกติ จากนั้นแพทย์หญิง วิทัศศนา จะทําความสะอาดแผลผ่าตัดที่หัวหน่าวด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อ แล้วปิดทับแผลผ่าตัดเพื่อกันนํ้าด้วย Tegaderm ® เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และถ้าผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถปัสสาวะได้เองหลังการถอดสายสวนปัสสาวะ รวมทั้งผู้เข้ารับการผ่าตัดเข้าใจเกี่ยวกับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดที่ถูกต้อง–แพทย์หญิง วิทัศศนา จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้

เมื่อผู้เข้ารับการผ่าตัดกลับบ้าน ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับยาปฏิชีวนะ, ยาแก้อักเสบ, ยาพาราเซตามอลและยาระบาย ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ควรรับประทานให้ครบทั้งหมด

bullet_tickหลังการผ่าตัด  2-3 วัน ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถอาบนํ้าได้ตามปกติ แต่ควรพยายามต้องระมัดระวังไม่ให้มีการรั่วซึมของนํ้าเข้า Tegaderm ® ที่ปิดแผลผ่าตัด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อของแผลผ่าตัด กรณีมีการรั่วซึมของนํ้าเข้า Tegaderm ®ที่ปิดแผลผ่าตั ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องกลับมาพบแพทย์ เพื่อตรวจแผลผ่าตัด

bullet_tickผู้เข้ารับการผ่าตัดควรจะต้องหยุดทำงานและงดกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำเป็นประจำ ในระยะ 3-5 วันแรกหลังการผ่าตัด เพื่อลดอาการปวด อันเนื่องมาจากการอักเสบของแผลผ่าตัด รวมทั้งเนื่องจากแผลผ่าตัด อยู่ในบริเวณที่จะได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหว ซึ่งได้แก่ การเดิน, การขึ้นลงบันได หรือการทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ดังนั้นการหยุดทำงานและงดกิจกรรมต่างๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากภาวะแผลแยกได้ 

bullet_tickในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด อาจมีเลือดสีแดงจางๆ ออกจากแผลผ่าตัด ควรสังเกตปริมาณเลือดที่ออกจากแผลผ่าตัด กรณีผู้เข้ารับการผ่าตัดมีเลือดออกมากชุ่มผ้ากอซ หรือมีเลือดออกเป็นก้อนสีแดงสด กรุณาโทรติดต่อโรงพยาบาลทันที เพื่อขอรับคำแนะนำ หรือกลับมาพบแพทย์ เพื่อตรวจแผลผ่าตัด

bullet_tickหลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรมาพบแพทย์ตามนัด ทั้งนี้โดยทั่วไป แพทย์หญิง วิทัศศนา จะนัดตรวจแผลผ่าตัด ครั้งที่ 1 หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ เพื่อดูแผลผ่าตัด ในกรณีที่แผลผ่าตัดยังไม่ติดดี ผู้เข้ารับการผ่าตัดจำเป็นต้องปิด Tegaderm ® เพื่อกันนํ้าต่ออีก 1 สัปดาห์ 

bullet_tickในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นบริเวณแผลผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลผ่าตัดแห้งและหายเร็วขึ้น สำหรับการทำความสะอาด บริเวณปากช่องคลอดหลังปัสสาวะ สามารถทำได้โดยการซับด้วยทิชชูเปียก (Sanitary Wipes) และทำความสะอาดหลังการถ่ายอุจจาระ โดยการล้างผ่านน้ำเปล่าแล้วซับเบาๆให้แห้ง 

bullet_tickผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจมีตกขาวสีขาวปนเขียว หรือตกขาวคันในช่องคลอดมากกว่าปกติหลังการผ่าตัด เนื่องจากเชื้อราภายในช่องคลอด ซึ่งเกิดตามหลังการรับประทานยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้โดยทั่วไปแพทย์จะจัดยาฆ่าเชื้อราให้รับประทาน หลังหยุดยาปฏิชีวนะ 1 สัปดาห์ หรือให้ยาเหน็บช่องคลอดฆ่าเชื้อรา 

bullet_tickผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดหลังการผ่าตัด แต่ควรยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ของหมักดองและงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 15 วันหลังการผ่าตัด

 

:: หัวข้อที่น่าสนใจ โปรดคลิก ::

รูปภาพ ก่อน-หลังการผ่าตัด

ศัลยกรรมจุดซ่อนเร้นกับภาวะแทรกซ้อน

 

3) คำแนะนำเกี่ยวกับ การปฎิบัติตัว ในระยะเวลาพักฟื้น หลังการผ่าตัด ยกมดลูก

วิธีการพักฟื้นอาจจะแตกต่างกันออกไป ในผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละคน แต่ผู้เข้ารับการผ่าตัด ควรจะต้องหยุดทำงานและงดกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำเป็นประจำ ในช่วง 3-5 วันแรกหลังการผ่าตัด ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจจะค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังได้เล็กน้อยและยกของเบาๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพที่ต้องเดินมากๆ และการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ

ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 2 – จนถึงสัปดาห์ที่ 4 หลังการผ่าตัด บริเวณที่ทำการผ่าตัดอาจจะยังคงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน อย่างไรก็ตามผู้เข้ารับการผ่าตัด สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ทางกายภาพที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้พอควร แต่ควรงดการออกกําลังกายทุกชนิด

ในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 4 – จนถึงสัปดาห์ที่ 6 หลังการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังปานกลางได้มากขึ้น และสามารถออกกำลังกายที่ใช้แรงของลำตัวช่วงบนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางกายภาพ ที่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ที่ส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด เช่น การวิ่งออกกำลังกายหรือการเดินเร็ว, การแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ, การว่ายน้ำ, การออกกําลังกายโดยการยกนํ้าหนัก, การขี่จักรยาน, การเล่นโยคะและการซิทอัพ

หลังการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถทำกิจกรรมทางกายภาพต่างๆ รวมทั้งสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ

4) คำแนะนำเกี่ยวกับ การตัดไหม หลังการผ่าตัด ยกมดลูก

ไหมที่ใช้ในการเย็บแผลผ่าตัด เป็นไหมเส้นเล็กที่ละลายช้าภายใน 6-8 สัปดาห์ แต่ในผู้เข้ารับการผ่าตัดบางราย อาจใช้เวลานานมากกว่าปกติไหมจึงจะละลายหมด ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ในผู้เข้ารับการผ่าตัดที่มีอาการคัน หรืออาการระคายเคืองมาก แนะนำให้รับประทานยาแก้แพ้ ทั้งนี้เพื่อช่วยบรรเทาอาการคันและอาการระคายเคือง

5) คำแนะนำเกี่ยวกั บการนัดหมาย หลังการผ่าตัด ยกมดลูก

พญ.วิทัศศนา จะนัดตรวจ หลังการผ่าตัด ยกมดลูก ในราว 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด หรือเมื่อเห็นว่าเหมาะสม อย่าลังเลที่จะ ติดต่อสอบถาม เราหากมีข้อสงสัย

ข้ามไปยังทูลบาร์