ปัญหาจุดซ่อนเร้น เช่น การมี ตุ่มที่อวัยวะเพศหญิง แท้จริงแล้วควรเป็นสิ่งที่เราควรรู้ว่า ควรทำอย่างไร ควรได้รับการแก้ไขอย่างไร สิ่งไหนที่รักษาได้หรือไม่ได้กับน้องสาวของเรา เพื่อลดปัญหาการติดเชื้อ ระคายเคือง ก่อให้เกิดโรคภัยและสิ่งไม่คาดคิดภายหลัง รู้หรือไม่ว่า การที่น้องสาวมีความผิดปกติหากปล่อยเอาไว้นานก็ทำให้ลุกลาม อักเสบ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคภัยร้ายแรงได้เช่นเดียวกัน
การที่น้องสาวมีตุ่ม อาจเหมือนไม่มีปัญหาอะไร แต่เราเองจำเป็นต้องสังเกตุว่า “ตุ่ม” บริเวณน้องสาวนั้นมีลักษณะอย่างไร
- มีหัวหนองคล้ายสิว หรือไม่ ?
- มีอาการบวม เป็นไตด้านใน หรือไม่ ?
- เป็นตุ่มใส หรือไม่ และ มีกี่ตุ่มเกิดขึ้น ?
ร่วมกับมีตกขาวเปลี่ยนสี มีเชื้อราในช่องคลอด หรือไม่ และตุ่มที่เกิดขึ้นอยู่มีในบริเวณไหนบ้าง มีอาการคัน แสบ ระคายเคืองหรือไม่ และนอกจากนี้ เรายังจำเป็นต้องสังเกตุว่า อะไรเป็นเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว
ตุ่มที่อวัยวะเพศหญิง เกิดจากสาเหตุอะไร
เกิดจาก ต่อมบาร์โธลินอักเสบ
- เป็นฝีขนาดเล็ก จะมีอาการปวดบวมร่วมด้วย
- แพ้แผ่นอนามัยหรือผ้าอนามัย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- เป็นสิว โดยมากเกิดจากความอับชื้น ทำให้เกิดแบคทีเรียเป็นสิวได้นั่นเอง
- ขนคุด หรือ เกิดเป็นต่อมไขมันอักเสบ จะมีอาการบวมแดง ระคายเคือง เจ็บและอาจมีหนอง
- ซีสต์ไขมัน (ขนาดเล็ก) มีลักษณะเป็นก้อนนิ่ม เมื่อบีบจะมีไขมันออกมา และ มีกลิ่นเหม็น
- เริม เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทางผิวหนัง โดยอาจใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้มีเชื้อไวรัสเริม
- หิด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะมีลักษณะเป็นตุ่มใสและตุ่มหนอง มีอาการคันมาก
- หูดข้าวสุก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยการสัมผัสกับคนที่มีเชื้อไวรัส ในบริเวณอวัยวะเพศที่มีอาการ
ไม่ว่าตุ่มที่น้องสาวจะขึ้นในลักษณะใด อย่างแรกที่ควรทำนั่นคือ การล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการสัมผัสบริเวณดังกล่าวทุกครั้ง เพื่อสังเกตุอาการ และไม่ควรจับบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการบีบ แกะ แคะ หรือเกา หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรพบ สูติ-นรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเแพทย์โดยเร่งด่วน เพื่อหาทางรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลรักษาต่อไป