ช่องคลอด ขาดความกระชับ หรือ น้องสาวหลวม เป็นอีกเรื่องที่คุณสาวๆ รุ่นใหญ่ไม่ควรละเลยไป แต่จะทำอย่างไรล่ะ ให้ช่องคลอดกระชับ ด้วยความปลอดภัย เลือกวิธีไหนถึงจะเหมาะกับตัวเองดี ซึ่งการ กระชับช่องคลอด หรือ รีแพร์ เป็นการเพิ่มการตึงตัวให้กล้ามเนื้อ ช่องคลอด นี้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ แบบไม่ผ่าตัด และ แบบผ่าตัด
1) วิธี กระชับช่องคลอด แบบไม่ผ่าตัด
1.1) การออกกำลังกายช่องคลอด หรือ การขมิบช่องคลอด เพื่อกระชับช่องคลอด
- ซึ่งเป็นวิธีที่คนไข้เอง สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการขมิบ ช่องคลอด ค้างไว้ 10 วินาที หลังจากนั้นจึงคลายตัวออก และทำซ้ำแบบเดิมเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีการออกกำลังกาย ช่องคลอด นั้นก็สามารถทำได้หลายสูตร ไม่มีสูตรตายตัว เช่น บางสูตรอาจจะขมิบ 100 ครั้ง ในช่วงกลางวัน และ 100 ครั้ง ในช่วงเย็น ซึ่งไม่ว่าจะขมิบด้วยสูตรใด หลักการง่ายๆ ก็คือช่วยให้ กล้ามเนื้อช่องคลอด ได้ออกกำลังนั่นเอง
ข้อดี: ประหยัด และสามารถทำได้เอง
ข้อเสีย: ในบางรายถ้าขมิบไม่ถูกต้อง อาจไม่เห็นผลตามที่ต้องการ และต้องใช้เวลานาน 3-6 เดือนขึ้นไป จึงจะเริ่มเห็นผล และผลที่ได้ก็มีขีดจำกัด
1.2) การใช้ เลเซอร์ กระชับช่องคลอด หรือ มินิรีแพร์ โดยไม่มีแผลผ่าตัด
- เลเซอร์ กระชับช่องคลอด หรือ มินิรีแพร์ เป็นนวัตกรรมใหม่ในการ กระชับช่องคลอด โดยก่อนการยิงเลเซอร์ แพทย์จะใช้เครื่องมือวัดความตึงตัวของกล้ามเนื้อในช่องคลอดโดยเฉพาะใส่เข้าไปช่องคลอด แล้วให้ผู้เข้ารับบริการขมิบ 1 ครั้ง เพื่อวัดความตึงตัวของช่องคลอดก่อนการยิงเลเซอร์
- หลังจากนั้นแพทย์จะให้ยานอนหลับฉีดเข้าทางหลอดเลือดดํา เมื่อผู้เข้ารับบริการหลับ แพทย์จะใส่หัวเลเซอร์เข้าไปใน ช่องคลอด เครื่องเลเซอร์จะปล่อยแสงเลเซอร์ออกมา เลเซอร์ดังกล่าวนี้ ก็จะทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่บริเวณ ปากช่องคลอด และใน ช่องคลอด ความร้อนของเลเซอร์จะทำให้เนื้อเยื่อและคอลลาเจน เกิดการหดตัวลงในทันที ส่งผลให้เยื่อบุช่องคลอดหดสั้นลง และมีความหนาเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นผิว ช่องคลอด ลดลง–ทําให้ ช่องคลอดแฟิต ขึ้น
- นอกเหนือจากการเกิดปฏิกิริยา การหดตัวของเนื้อเยื่อและคอลลาเจน ในชั่วขณะหนึ่งแล้ว เลเซอร์จะกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้เนื้อเยื่อช่องคลอดกระชับแน่นขึ้น มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น
- หลังจากทำไปแล้ว 1 เดือน ความตึงตัวของช่องคลอดจะเพิ่มขึ้น สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัดความตึงตัวของกล้ามเนื้อในช่องคลอด โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือดังกล่าววัดซํ้าหลังจากการยิงเลเซอร์ไป 4-6 สัปดาห์แล้ว และวัดซํ้าอีกครั้งเมื่อครบ 4 เดือน
- หลังการทําเลเซอร์จะไม่มีอาการปวด และไม่มีการสูญเสียเลือด แตกต่างจากการผ่าตัด นอกจากนี้ยังงดมีเพศสัมพันธ์หลังการยิงเลเซอร์เพียง 2-4 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามการทำ กระชับช่องคลอด โดยวิธีนี้มีข้อจำกัด คือจะช่วยให้ช่องคลอดกระชับขึ้นได้ระดับหนึ่ง ดังนั้นการทําเลเซอร์ชนิดนี้ จึงควรทําในสุภาพสตรี ที่มีภาวะ ช่องคลอดหย่อนยาน ไม่มากนัก อีกทั้งผลการรักษาที่ได้-ไดัผลเพียงชั่วคราวทำ 1 คอร์ส สามารถ กระชับช่องคลอดได้ 1 ปี
ข้อดี: มีเครื่องมือวัดความตึงตัวของ ช่องคลอด ทำให้คนไข้และแพทย์ผู้ทำการรักษา สามารถวัดผลได้ จากเครื่องวัดความตึงตัวของ ช่องคลอด ได้ชัดเจน วิธีนี้สามารถใช้ได้ในสุภาพสตรีที่อายุมาก, สุภาพสตรีที่อ้วนมากๆ ผ่าตัดยาก, สุภาพสตรีที่เคยผ่าตัด รีแพร์ มาก่อน หรือแม้แต่สุภาพสตรีที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด เช่น คนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น
ข้อเสีย: มีข้อจำกัด การใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด โดยไม่มีแผลผ่าตัด ไม่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงที่มีบุตรหลายคน หรือผู้หญิงที่มีกล้ามเนื้อช่องคลอดหย่อนยานมากๆ รวมทั้งผู้หญิงที่มีภาวะไอ, จามปัสสาวะเล็ด ที่มีอาการรุนแรง และที่สำคัญการทำเลเซอร์ชนิดนี้ ราคาอาจจะค่อนข้างสูงกว่าวิธีผ่าตัดแบบดั้งเดิม
2) วิธี รีแพร์กระชับช่องคลอด แบบผ่าตัด
2.1) ใช้มีดผ่าตัด รีแพร์กระชับช่องคลอด แบบดั้งเดิม
- เป็นการผ่าตัดแบบทั่วไป โดยใช้มีดและกรรไกรเป็นตัวผ่าตัด ซึ่งหลังทำผ่าตัดจะมีแผลผ่าตัดใน ช่องคลอด และจะมีการใช้ไหมละลายเย็บแผลผ่าตัดที่อยู่ใน ช่องคลอด หลังการผ่าตัดต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงเรื่องพฤติกรรมเสี่ยง ที่จะทำให้บาดแผลที่ช่องคลอดฉีกขาด ได้แก่ ภาวะท้องผูก, การไอ, จาม, การยกของหนัก และต้องงดการเล่นกีฬาบางชนิดอย่างน้อย 6 สัปดาห์
- อาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สำหรับคนไข้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศภายใน 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดแผลแยก มีเลือดออกหลังการผ่าตัด ดังนั้นตัวคนไข้เอง อาจจะต้องมีการวางแผน เรื่องของการพักฟื้นหลังผ่าตัดด้วย โดยทั่วไปควรมีเวลานอนพักนิ่งๆ อย่างน้อย 2-3 วันหลังการผ่าตัด และควรงดการเดินทาง สามารถเดินทางหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์นั่นเอง
ข้อดี: ราคาไม่สูง เหมาะกับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัด ที่ไม่สะดวกที่จะทำผ่าตัดโดยเลเซอร์
ข้อเสีย: ใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน มีข้อจำกัดสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
2.2) การใช้เลเซอร์ผ่าตัด รีแพร์กระชับช่องคลอด
- วิธีนี้จะคล้ายกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม แต่จะมีการใช้ เลเซอร์ ในการผ่าตัดแทนใบมีด ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำ และเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น ทําให้มีการสูญเสียเลือดน้อยลง และเนื่องจากการผ่าตัดโ ดยเลเซอร์ จะช่วยลดการรบกวนจากการทำลายเนื้อเยื่อ และเส้นเลือดของแผลผ่าตัด ทำให้คนไข้ฟื้นตัวเร็วขึ้น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยลง ซึ่งหลังทำผ่าตัดจะมีแผลผ่าตัดใน ช่องคลอด และมีการใช้ไหมละลายเย็บแผลผ่าตัดในช่องคลอด เหมือนกับการผ่าตัดด้วยวิธีผ่าตัด โดยการใช้มีดแบบดั้งเดิม หลังการผ่าตัดต้องมีการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด เช่นเดียวกันกับหลังทำผ่าตัด รีแพร์ หรือ ตกแต่งช่องคลอด โดยการใช้มีดแบบวิธีดั้งเดิม
ข้อดี: ทำให้คนไข้เสียเลือดน้อยลง สามารถควบคุมความลึกของแผลผ่าตัดได้ ทําให้มีการสูญเสียเลือดน้อยลงส่งผลให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
ข้อเสีย: ใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า เลเซอร์กระชับช่องคลอด แต่อาจน้อยกว่าการผ่าตัดแบบการใช้มีดผ่าตัด แบบดั้งเดิม
รูปภาพ ก่อน-หลังการผ่าตัด
พญ. วิทัศศนา แนะนำเกี่ยวกับการ ผ่าตัด รีแพร์ กระชับช่องคลอด
สำหรับในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์กับคู่สมรสเอง ถ้าตัวคนไข้หรือคู่สมรสเองไม่ได้มีปัญหาใดๆ แพทย์ก็จะไม่แนะนำให้ทำผ่าตัด
แต่หากในรายที่มีความรู้สึกว่า ไม่มีความกระชับในการมีเพศสัมพันธ์ มีลม, มีเสียงขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่ที่สุดแล้วคู่สมรสเอง เป็นคนบอกให้มาทำผ่าตัด เพราะคุณผู้ชายอาจจะรู้สึกว่าความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ลดลง รู้สึกไม่เหมือนเดิม หรือถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้น จึงควรตัดสินใจทำผ่าตัด ส่วนการจะเลือกวิธีไหนในการผ่าตัดนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เอง
หมายเหตุ : แพทย์หญิง วิทัศศนา เขตต์กลาง ให้สัมภาษณ์ นิตยสาร Appeal เดือนมิถุนายน 2556 ข้อมูลบางส่วน เรื่อง “เช็ควิธีกระชับน้องสาว..ก่อนความสาวหมดไป” ได้มีการอัพเดตและปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อความเหมาะสมและถูกต้องในการเผยแพร่ข้อมูลในเชิงวิชาการ