แพทย์หญิง วิทัศศนา เขตต์กลาง ให้สัมภาษณ์ นิตยสาร Appeal เดือนมิถุนายน 2556
ความกระชับของน้องสาว หรือช่องคลอด เป็นอีกเรื่องที่คุณสาวๆ รุ่นใหญ่ไม่ควรละเลยไป แต่จะทำอย่างไรล่ะ ให้ช่องคลอดกระชับ ด้วยความปลอดภัย เลือกวิธีไหนถึงจะเหมาะกับตัวเองดี ซึ่งการกระชับช่องคลอด หรือการเพิ่มการตึงตัวให้กล้ามเนื้อช่องคลอดนี้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด
1) วิธีกระชับช่องคลอด แบบไม่ผ่าตัด
1.1) การออกกำลังกายช่องคลอด หรือการขมิบช่องคลอด เพื่อเพิ่มความกระชับ
ซึ่งเป็นวิธีที่คนไข้เอง สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการขมิบช่องคลอดค้างไว้ 10 วินาที หลังจากนั้นจึงคลายตัวออก และทำซ้ำแบบเดิมเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีการออกกำลังกายช่องคลอด นั้นก็สามารถทำได้หลายสูตร ไม่มีสูตรตายตัว เช่น บางสูตรอาจจะขมิบ 100 ครั้ง ในช่วงกลางวัน และ 100 ครั้ง ในช่วงเย็น ซึ่งไม่ว่าจะขมิบด้วยสูตรใด หลักการง่ายๆ ก็คือช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอด ได้ออกกำลังนั่นเอง
ข้อดี: ประหยัด และสามารถทำได้เอง
ข้อเสีย: ในบางรายถ้าขมิบไม่ถูกต้อง อาจไม่เห็นผลตามที่ต้องการ และต้องใช้เวลานาน 3-6 เดือนขึ้นไป จึงจะเริ่มเห็นผล และผลที่ได้ก็มีขีดจำกัด
1.2) การใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด โดยไม่มีแผลผ่าตัด
เป็นนวัตกรรมใหม่ ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวช โรงพยาบาลยันฮี ถือเป็นแห่งแรกที่เปิดให้บริการ เลเซอร์กระชับช่องคลอด แบบที่ไม่มีบาดแผล โดยก่อนการยิงเลเซอร์ แพทย์จะใช้เครื่องมือวัดความตึงตัวของกล้ามเนื้อในช่องคลอดโดยเฉพาะใส่เข้าไปช่องคลอด แล้วให้ผู้เข้ารับบริการขมิบ 1 ครั้ง เพื่อวัดความตึงตัวของช่องคลอดก่อนการยิงเลเซอร์ หลังจากนั้นแพทย์จะให้ยานอนหลับฉีดเข้าทางหลอดเลือดดํา เมื่อผู้เข้ารับบริการหลับ แพทย์จะใส่หัวเลเซอร์เข้าไปในช่องคลอด เครื่องเลเซอร์จะปล่อยแสงเลเซอร์ออกมา เลเซอร์ดังกล่าวนี้ ก็จะทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่บริเวณ ปากช่องคลอด และใน ช่องคลอด ความร้อนของเลเซอร์จะทำให้เนื้อเยื่อและคอลลาเจน เกิดการหดตัวลงในทันที ส่งผลให้เยื่อบุช่องคลอดหดสั้นลง และมีความหนาเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นผิวช่องคลอดลดลง–ทําให้ช่องคลอดแคบลง
นอกเหนือจากการเกิดปฏิกิริยา การหดตัวของเนื้อเยื่อและคอลลาเจน ในชั่วขณะหนึ่งแล้ว เลเซอร์จะกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้เนื้อเยื่อช่องคลอดกระชับแน่นขึ้น มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น
หลังจากทำไปแล้ว 1 เดือน ความตึงตัวของช่องคลอดจะเพิ่มขึ้น สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัดความตึงตัวของกล้ามเนื้อในช่องคลอด โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือดังกล่าววัดซํ้าหลังจากการยิงเลเซอร์ไป 4-6 สัปดาห์แล้ว และวัดซํ้าอีกครั้งเมื่อครบ 4 เดือน
หลังการทําเลเซอร์จะไม่มีอาการปวด และไม่มีการสูญเสียเลือด แตกต่างจากการผ่าตัด นอกจากนี้ยังงดมีเพศสัมพันธ์หลังการยิงเลเซอร์เพียง 2-4 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามการทำกระชับช่องคลอด โดยวิธีนี้มีข้อจำกัด คือจะช่วยให้ช่องคลอดกระชับขึ้นได้ระดับหนึ่ง ดังนั้นการทําเลเซอร์ชนิดนี้ จึงควรทําในสุภาพสตรี ที่มีภาวะช่องคลอดหย่อนยานไม่มากนัก อีกทั้งผลการรักษาที่ได้-ไดัผลเพียงชั่วคราวทำ 1 คอร์ส สามารถกระชับช่องคลอดได้ 1 ปี
ข้อดี: มีเครื่องมือวัดความตึงตัวของช่องคลอด ทำให้คนไข้และแพทย์ผู้ทำการรักษา สามารถวัดผลได้ จากเครื่องวัดความตึงตัวของช่องคลอดได้ชัดเจน วิธีนี้สามารถใช้ได้ในสุภาพสตรีที่อายุมาก, สุภาพสตรีที่อ้วนมากๆ ผ่าตัดยาก, สุภาพสตรีที่เคยผ่าตัดรีแพร์มาก่อน หรือแม้แต่สุภาพสตรีที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด เช่น คนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น
ข้อเสีย: มีข้อจำกัด การใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอด โดยไม่มีแผลผ่าตัด ไม่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงที่มีบุตรหลายคน ผู้หญิงที่มีกล้ามเนื้อช่องคลอดหย่อนยานมากๆ รวมทั้งผู้หญิงที่มีภาวะไอ, จามปัสสาวะเล็ด ที่มีอาการรุนแรง และที่สำคัญการทำเลเซอร์ชนิดนี้ ราคาอาจจะค่อนข้างสูงกว่าวิธีผ่าตัดแบบดั้งเดิม
2) วิธีกระชับช่องคลอด แบบผ่าตัด
2.1) ใช้มีดผ่าตัดกระชับช่องคลอด แบบดั้งเดิม
เป็นการผ่าตัดแบบทั่วไป โดยใช้มีดและกรรไกรเป็นตัวผ่าตัด ซึ่งหลังทำผ่าตัดจะมีแผลผ่าตัดในช่องคลอด และจะมีการใช้ไหมละลายเย็บแผลผ่าตัดที่อยู่ในช่องคลอด หลังการผ่าตัดต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงเรื่องพฤติกรรมเสี่ยง ที่จะทำให้บาดแผลที่ช่องคลอดฉีกขาด ได้แก่ ภาวะท้องผูก, การไอ, จาม, การยกของหนัก และต้องงดการเล่นกีฬาบางชนิดอย่างน้อย 6 สัปดาห์
อาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สำหรับคนไข้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศภายใน 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดแผลแยก มีเลือดออกหลังการผ่าตัด ดังนั้นตัวคนไข้เอง อาจจะต้องมีการวางแผน เรื่องของการพักฟื้นหลังผ่าตัดด้วย โดยทั่วไปควรมีเวลานอนพักนิ่งๆ อย่างน้อย 2-3 วันหลังการผ่าตัด และควรเดินทางหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์นั่นเอง
ข้อดี: ราคาไม่สูง เหมาะกับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัด ที่ไม่สะดวกที่จะทำผ่าตัดโดยเลเซอร์
ข้อเสีย: ใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน มีข้อจำกัดสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
2.2) การใช้เลเซอร์ผ่าตัดกระชับช่องคลอด
วิธีนี้จะคล้ายกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม แต่จะมีการใช้เลเซอร์ ในการผ่าตัดแทนใบมีด ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำ และเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น ทําให้มีการสูญเสียเลือดน้อยลง และเนื่องจากการผ่าตัดโดยเลเซอร์ จะช่วยลดการรบกวนจากการทำลายเนื้อเยื่อ และเส้นเลือดของแผลผ่าตัด ทำให้คนไข้ฟื้นตัวเร็วขึ้น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยลง ซึ่งหลังทำผ่าตัดจะมีแผลผ่าตัดในช่องคลอด และมีการใช้ไหมละลายเย็บแผลผ่าตัดในช่องคลอด เหมือนกับการผ่าตัดด้วยวิธีผ่าตัด โดยการใช้มีดแบบดั้งเดิม หลังการผ่าตัดต้องมีการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด เช่นเดียวกันกับหลังทำผ่าตัดตกแต่งช่องคลอด โดยการใช้มีดแบบวิธีดั้งเดิม
ข้อดี: ทำให้คนไข้เสียเลือดน้อยลง สามารถควบคุมความลึกของแผลผ่าตัดได้ ทําให้มีการสูญเสียเลือดน้อยลงส่งผลให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
ข้อเสีย: ใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าเลเซอร์กระชับช่องคลอด แต่อาจน้อยกว่าการผ่าตัดแบบการใช้มีดผ่าตัด แบบดั้งเดิม
พญ. วิทัศศนา แนะนำเกี่ยวกับการผ่าตัดกระชับช่องคลอด
สำหรับในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์กับคู่สมรสเอง ถ้าตัวคนไข้หรือคู่สมรสเองไม่ได้มีปัญหาใดๆ แพทย์ก็จะไม่แนะนำให้ทำผ่าตัด
แต่หากในรายที่มีความรู้สึกว่า ไม่มีความกระชับในการมีเพศสัมพันธ์ มีลม, มีเสียงขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่ที่สุดแล้วคู่สมรสเอง เป็นคนบอกให้มาทำผ่าตัด เพราะคุณผู้ชายอาจจะรู้สึกว่าความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ลดลง รู้สึกไม่เหมือนเดิม หรือถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้น จึงควรตัดสินใจทำผ่าตัด ส่วนการจะเลือกวิธีไหนในการผ่าตัดนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เอง